นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
 
บริษัท พรีซีสชั่น เอนยีเนียริ่ง จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักดีถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่ใช้บริการต่างๆ ของบริษัท (“ท่าน”) มาโดยตลอด บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (“นโยบาย”) และเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยสำหรับการจัดเก็บและรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทกำหนดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกจากนี้ บริษัทยังจัดให้มีระบบการตรวจสอบการเข้าถึงและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล หรือการแก้ไขส่วนบุคคลโดยผู้ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง หรือการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
นโยบาย ฉบับนี้ อธิบายถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม และการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาในการเก็บรวบรวมไว้ ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท นโยบายฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานบริการต่างๆ ของบริษัท และบริษัทอาจแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง นโยบายฉบับนี้โดยอาจไม่ได้แจ้งหรือบอกกล่าวให้ท่านทราบล่วงหน้า ดังนั้นท่านจึงควรติดตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้นี้อย่างสม่ำเสมอ และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเราจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า และขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
 
ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม
 
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลใดๆ ของท่านซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท โดยการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการทำรายการ และประสบการณ์การใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์ หรือที่ท่านได้อนุญาตให้บริษัทได้เข้าถึง (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้ด้วย
ก. ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นใดที่สามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล วันเกิด หมายเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล รูปถ่ายบัตรประชาชน (ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง) หมายเลขเลเซอร์ด้านหลังบัตรประชาชน รูปถ่าย เลขหนังสือเดินทาง รวมทั้งข้อมูลส่วนตัวอื่นใดที่สามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้
ข. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพซึ่งรวมถึงใบหน้า ลายนิ้วมือ รูม่านตา
ค. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน รายได้ การใช้จ่าย การชำระหนี้ พฤติกรรมการบริโภค ข้อมูลผู้ใช้งาน ข้อมูลการใช้งาน ตำแหน่งที่มีการใช้งานบริการของบริษัท ข้อมูลการติดต่ออื่นๆ ข้อมูลบัญชีต่างๆ ข้อมูลการทำธุรกรรม และ/หรือความสนใจของท่านเมื่อประกอบกับข้อมูลอื่นอันทำให้สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้
ง. ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้งานผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึง กล้องวงจรปิด ระบบการเข้าออกอาคาร และข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์
ในกรณีที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านใดเป็นผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และ/หรือ บุคคลไร้ความสามารถ การให้ความยินยอมของท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่ ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี) ด้วย หากผู้จะให้ความยินยอมนั้นเป็นผู้เยาว์ที่อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยตรง และหากบริษัทพบว่ามีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่ บริษัทมีสิทธิตามกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้ และ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
 
การเก็บรวบรวม และการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
 
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง และ/หรือจากแหล่งข้อมูลอื่นที่เปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลโดยตรง  เช่น ข้อมูลที่เผยสู่สารธารณะ ผู้ให้บริการภายนอก นายทะเบียนหลักทรัพย์ เป็นต้น ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นจะได้รับการตรวจสอบหรือรับรองแล้วว่าสามารถนำมาใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ของนโยบายฉบับนี้ และ/หรือในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทไม่ว่าข้อมูลใด บริษัทจะถือว่าท่านรับรองว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบเกี่ยวกับการเปิดเผย และการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยบริษัทแล้ว และบุคคลดังกล่าวได้ให้ความยินยอมแก่ท่านเพื่อการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวตามนโยบายฯฉบับนี้แล้ว
บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจ และ/หรือความชอบของท่าน และ/หรือข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ของท่านด้วยการใช้คุกกี้ในเว็บไซด์ และแอปพลิเคชันของบริษัท โดยคุกกี้ที่อยู่ในเว็บไซด์ และแอปพลิเคชันของบริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านไว้ และบริษัทจะสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทสามารถนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของท่านให้ได้มากที่สุด
ในการติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล แอปพลิเคชันของบริษัท แอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร สายตรงบริการลูกค้าสัมพันธ์ ศูนย์บริการลูกค้า หรือการติดต่อโดยวิธีการอื่นใด บริษัทอาจดำเนินการบันทึกข้อมูลการติดต่อสื่อสารเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่จำเป็น เช่น เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงบริการ เพื่อติดตามความพึงพอใจของท่าน เพื่ออบรมบุคลากร เพื่อประเมินผลงานบุคลากร เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงเพื่อพัฒนาระบบของบริษัท เป็นต้น
 
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
 
การเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลและใช้ข้อมูลลูกค้า เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลและใช้ข้อมูลลูกค้า เพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของท่าน หรือส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด และส่งเสริมการขาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการต่างๆ ไม่ว่าจะนำเสนอโดยบริษัท หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อติดตามความสนใจของท่าน เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทและได้ทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เป็นความลับ เพื่ออบรมบุคลากร เพื่อประเมินผลงานบุคลากร เพื่อพัฒนาระบบของบริษัท หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการให้บริการของบริษัท และบริหารความสัมพันธ์ของบริษัทกับท่าน ทั้งนี้ บริษัทจะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม
บริษัทจะดูแลให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ มิให้ ใช้ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ในกรณีที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้นจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัททราบก่อน และต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท
 
 
 
บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีการเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้
 
ก. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และปฏิบัติครบถ้วนตามกระบวนการที่กฎหมายนั้นบัญญัติ
ข. การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของท่าน
ค. การส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้คณะกรรมการหรือสำนักงาน เมื่อได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการและสำนักงาน เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานกำกับดูแลการประกอบกิจการตามกฎหมาย
ง. การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการต่างๆ ที่ให้บริการแก่บริษัท ซึ่งรวมถึงหน่วยงานราชการที่บริษัทขอใช้บริการด้วย เช่น ผู้ให้บริการต่างๆ ที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ โดยผู้ให้บริการดังกล่าวจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เท่าที่บริษัทอนุญาตให้ใช้ และต้องสอดคล้องกับนโยบายฉบับนี้ โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นการเปิดเผยเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ที่ปรึกษาวิชาชีพต่างๆ เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้สอบบัญชี เป็นต้น
ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลรวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์
ผู้ให้บริการทางการตลาด ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการในการจัดทำข้อมูลและสถิติด้วย
ผู้ให้บริการงานโฆษณา งานประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร
ผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบและเครือข่ายชำระเงิน
ผู้ให้บริการการยืนยันตัวตนต่างๆ ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการ Dip Chip บัตรประชาชนตัวแทนรับชำระเงิน
สถาบันการเงิน และ บุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทใช้บริการในการให้บริการแก่ท่าน
ผู้ให้บริการตรวจสอบข้อมูล เช่น เน็ตเบย์ และกรมการปกครอง (DOPA) เป็นต้น
จ. พันธมิตรของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นที่มีข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับบริษัท เช่น สถาบันการเงินต่างๆ บริษัทประกันภัย บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน เป็นต้น
ฉ. สมาคมต่างๆ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สมาคมต่างๆ ที่บริษัทสมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ช. บุคคลอื่นใดที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแล หรือคำสั่งของหน่วยงานตุลาการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
ซ. ผู้รับโอนสิทธิ หรือหน้าที่จากบริษัท ในกรณีที่บริษัทประสงค์จะโอนสิทธิ และหน้าที่ของบริษัท รวมถึงการโอนกิจการบางส่วนหรือทั้งหมด การควบรวมกิจการ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท บริษัทจำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับโอน) โดยสิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฯ ฉบับนี้ด้วย
 
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลตามข้อ ก. ถึง ซ. ข้างต้น อาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลภายในประเทศไทย หรือเป็นการเปิดเผยข้อมูลไปยังต่างประเทศก็ได้
 
 
 
สิทธิในฐานะของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
            ก. การให้ความยินยอม
ท่านมีสิทธิเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆที่บริษัทร้องขอ และยินยอมให้บริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือไม่ก็ได้ เพียงแต่ท่านต้องรับทราบว่าการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ หรือการไม่ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจทำให้ท่านถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้เลยหากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน
            ข. การเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้ และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น หรือขอให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูลเองหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (หากข้อมูลดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้) รวมทั้ง ท่านยังสามารถขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ
            ค. การถ่ายโอนข้อมูล
                        ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทได้ทำการให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามมารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
            ง. การคัดค้าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บ ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หากข้อมูลนั้นบริษัทจัดเก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน หรือข้อมูลนั้นเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการตลาดแบบตรง หรือการเพื่อการศึกษาวิจัย
            จ. การลบ ทำลาย หรือระงับการใช้
ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรักษาไว้ หรือให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเพิกถอน หรือคัดค้านการเก็บใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บ ใช้หรือ เปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือเมื่อบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
            ฉ. การแก้ไข
ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
            ช. การถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ แต่การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านต่อไปได้
 
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น โดยท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อขอใช้สิทธิของท่านดังนี้ โดยแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังบริษัท หรือผ่านทาง Call Center ติดต่อ 02-613-8989
 
บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวก และดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน เว้นแต่การดำเนินการตามคำร้องขอนั้น มีความเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ลงทะเบียน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบนั้น ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงได้รับการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ หรือในกรณีที่เกิดจากการการกระทำใดๆ ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายต่อบุคคลหรือซอฟต์แวร์อื่น ตลอดจนเพื่อเก็บเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
 
ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
 
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาขั้นต่ำที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดเอาไว้ โดยปัจจุบัน บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี ภายหลังจากที่บริษัทสิ้นสุดความสัมพันธ์กับท่านในฐานะลูกค้าหรือสิ้นสุดกิจกรรมหนึ่งๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว หากบริษัทเห็นว่าบริษัทยังมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ของนโยบายฉบับนี้ หรือเพื่อความจำเป็นอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร เช่น การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท เป็นต้น
 
วิธีการติดต่อบริษัท
 
หากท่านมีข้อเสนอแนะ ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือประสงค์จะติดต่อบริษัท เพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ: คุณสุนีย์ คงพิสัยผดุง  (เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
เบอร์โทรศัพท์: 02-613-8989 ต่อ 321
E-mail: [email protected]
เวลาทำการ 8:00-17:00 น.  จันทร์-ศุกร์
 
ที่อยู่สำหรับติดต่อทางไปรษณีย์:
บริษัท พรีซีสชั่น เอนยีเนียริ่ง จำกัด (สำนักงานใหญ่)
เลขที่ 153/13 ซอยรองเมือง3 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เบอร์โทรศัพท์ : 02-613-8989